มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันก่อน นิตยสารฟอร์บสของสหรัฐฯ เปิดตัวดัชนี Best Over A Billion บริษัทจดทะเบียนรายสำคัญ 200 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีรายได้หรือยอดขาย 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป หรือ 3 หมื่นล้านบาท มีของไทยติดอันดับด้วยนะคะ เราจะพาไปดู 10 อันดับสูงที่สุดของไทยกันค่ะ
1.บมจ.เครือเจริญโภคภัณฑ์ (อันดับ 13) มียอดขาย 16,775 ล้านดอลลาร์ (503,250 ล้านบาท) โดย CPALL (ซีพี ออลล์) มีมาร์เกตแคป 747,843.19 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 282,133.52 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10,563.80 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.12บาท ขณะที่ ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 68.75 บาท ณ 30 ส.ค.62 ปิดที่ 84.00 บาท เพิ่มขึ้น 15.25 บาท หรือ 22.18%
2.บมจ.อินโดรามา (อันดับ 26) มียอดขาย 10,747 ล้านดอลลาร์ (322,410 ล้านบาท) มีมาร์เกตแคป 197,913 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 192,590.18 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,974.83 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.97บาท ขณะที่ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 54.25 บาท ณ 30 ส.ค.62 ปิดที่ 35.25 บาท ลดลง 19.00 บาท หรือ -35.02%
3.บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (อันดับ 57) มีรายได้ 6,002 ล้านดอลลาร์ (180,060 ล้านบาท) มีมาร์เกตแคป 382,922 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 9,929 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นสิ้นปี 61 ปิดที่ 185.00 บาท ณ 30 ส.ค. 62 ปิดที่ 160.00 บาท ปรับเพิ่ม 25.00 บาท หรือ -13.51%
4.บมจ.สยามแมคโคร (อันดับ 58) มีรายได้ 5,943 ล้านดอลลาร์ (178,290 ล้านบาท) มีมาร์เกตแคป 169,200.00 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 103,808.19 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,702.90 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.56บาท ขณะที่ราคาหุ้นสิ้นปี 61 ปิดที่ 32.00 บาท ณ 30 ส.ค. 62 ปิดที่ 35.25 บาท ปรับเพิ่ม 3.25 บาท หรือ 10.15%
5.บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (อันดับ 70) มีรายได้ 5,248 ล้านดอลลาร์ (157,440 ล้านบาท) มีมาร์เกตแคป 326,412 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 78,554.66 ล้านบาท กำไรสุทธิ 18,375.30 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.63 บาท ขณะที่ราคาหุ้นสิ้นปี 61 ปิดที่ 203.00 บาท ณ 30 ส.ค. 62 ปิดที่ 171.00 บาท ปรับลด 32.00 บาท หรือ -15.76%
6.บมจ.ทรู คอร์ป (อันดับ 77) มีรายได้ 5,009 ล้านดอลลาร์ (150,270 ล้านบาท) มีมาร์เกตแคป 210,220 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 70,967.29 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,569 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.08บาท ขณะที่ราคาหุ้นสิ้นปี 61 ปิดที่ 5.20 บาท ณ 30 ส.ค. 62 ปิดที่ 6.30 บาท ปรับเพิ่ม 1.10 บาท หรือ 21.15%
7.บมจ.เบอร์ลี ยุคเกอร์ (อันดับ 80) มีรายได้ 4,833 ล้านดอลลาร์ (144,990 ล้านบาท) มาร์เกตแคป 217,298 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 86,797.27 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,031.61 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.76บาท ขณะที่ราคาหุ้นสิ้นปี 61 ปิดที่ 50.75 บาท ณ 30 ส.ค. 62 ปิดที่ 54.25 บาท ปรับเพิ่ม 3.50 บาท หรือ 6.89%
8.บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (อันดับ 88) มีรายได้ 4,411 ล้านดอลลาร์ (132,330 ล้านบาท) มาร์เกตแคป 250,095.90 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 73,576.15 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19,746.94 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.68 บาท ขณะที่ราคาหุ้นสิ้นปี 61 ปิดที่ 38.25 บาท ณ 30 ส.ค. 62 ปิดที่ 35.00 บาท ปรับลด 3.25 บาท หรือ -8.49%
9.บมจ.ไทย ยูเนียน กรุ๊ป (อันดับ 95) มียอดขาย 4,126 ล้านดอลลาร์ (123,780 ล้านบาท) มาร์เกตแคป 82,075.23 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 63,377.46 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,384.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.29 บาท ขณะที่ราคาหุ้นสิ้นปี 61 ปิดที่ 16.20 บาท ณ 30 ส.ค. 62 ปิดที่ 17.40 บาท ปรับเพิ่ม 1.20 บาท หรือ 7.40%
10.บมจ.พีทีจี เอ็นเนอร์ยี (อันดับ111) มีรายได้ 3,338 ล้านดอลลาร์ (100,140ล้านบาท) มาร์เกตแคป 36,072.00 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 60,623.16 ล้านบาท กำไรสุทธิ 947.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.57 บาท ขณะที่ราคาหุ้นสิ้นปี 61 ปิดที่ 8.60 บาท ณ 30 ส.ค. 62 ปิดที่ 21.50 บาท ปรับเพิ่ม 12.90 บาท หรือ 150%
ส่วนอันดับ 11-14 ประกอบด้วย บมจ.โฮม โปรดัค เซนเตอร์ มีรายได้ 1,906 ล้านดอลลาร์ ,บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิง พับลิค มีรายได้ 1,420 ล้านดอลลาร์, บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ มีรายได้ 1,060 ล้านดอลลาร์ และบมจ.เซ็นทรัล พัฒนา มีรายได้ 1,049 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หุ้นเหล่านี้ โดยส่วนใหญ่แล้ว ค่อนข้างเป็นพิมพ์นิยม ซึ่งจับจังหวะและดูสถานการณ์ ให้ดีนะคะ วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย