epahamalao

10 หุ้นตัวใหญ่ กลุ่ม ENERG เจ็บหนักแค่ไหนไตรมาสนรก

หุ้นพลังงาน

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะพาไปส่อง 10 หุ้นตัวบิ๊กเบิ้มสุดในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) ที่โดนผลกระทบหนักมากค่ะไปดูกันว่า ผ่านไตรมาส 1 ที่ถือเป็น ไตรมาสนรก หุ้นดิ่งเหวหนักมาก เกิด Circuit Breaker หลายครั้งในเดือนเดียวกัน 10หุ้นตัวบิ๊ก จะเป็นอย่างไรกันบ้าง (สิ้นปี 62 SET ปิดที่ 1,579.84 จุด ล่าสุด 1 เม.ย.63 SET ปิดที่ 1,105.51 จุด ลบไป 474.33 จุดภายใน 3 เดือน

1.PTT (บมจ.ปตท.) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 1,256,771 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 864,031 ล้านบาท ลดลง 392,740 ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 44.00 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 13.75 บาท หรือ -31.25%

ตัวนี้ปัจจัยเสี่ยงจากราคาน้ำมันดิบ – ก๊าซธรรมชาติจากสงครามราคาน้ำมัน บวกโควิด-19 ที่ยังแรง ปัจจัยบวกคือ ความแกร่ง PTT ที่หลายธุรกิจ ทั้ง ผลิต – สำรวจ ,โรงแยกก๊าซ ,โรงกลั่น , ปิโตรเคมี รีเทล

2.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 354,127 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 317,862 บาท ลดลง 36,265 ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 166.00 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 17.00 บาท หรือ -10.24%

GULF ราคาหุ้นผ่านการปรับฐานในช่วงที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งมีปัจจัยบวกคือมีกำลังผลิตในมือ 7.9 พันเมกกะวัตต์ ซึ่ง COD ไปบางส่วน เหลืออีกอื้อ 5 พันเมกะวัตต์ ที่มีแผนทยอย COD จะทำให้กำไรขยับขึ้นค่ะ

3.PTTEP (ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 494,263 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 265,989 บาท ลดลง 228,274ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 124.50 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 57.50 บาท หรือ -46.18%

PTTEP ยังจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับลงอย่างต่อเนื่อง แต่หลายเกจิมองว่า ได้สะท้อนราคาน้ำมันลงไปมากแล้ว อาจมีโอกาสปรับขึ้นได้ค่ะ

4.GPSC (บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 241,791 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 157,905 บาท ลดลง 83,886ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 85.75 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 56.00 บาท ลดลง 29.75 บาท หรือ -34.69%

-GPSC ราคาดิ่งหนักๆ แต่หลายโบรคฯ มองเป็นหุ้นหลบภัยในช่วงภาวะตลาดผันผวนจากโควิด-19 และเชื่อว่ากำไรปี 63 จะยังเติบโตหลังรับรู้ผลการดำเนินงาน GLOW และโรงไฟฟ้าที่ COD ในปีที่ผ่านมา

5.EA (บมจ.พลังงานบริสุทธิ์) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 163,187 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 124,023 บาท ลดลง 39,164 ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 43.75บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 33.00 บาท ลดลง 10.75 บาท หรือ -24.57%

-EA โดยบริษัทย่อยเพิ่งทุ่ม 285 ล้านบาทซื้อหุ้น ‘เอ็นเนอร์ยี่ เทค’ 70% เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจปีนี้น่าจะเติบโตจากการรับรู้รายได้ของธุรกิจไฟฟ้าเต็มปีแล้ว จะได้เริ่มเห็นผล

6.EGCO (บมจ.ผลิตไฟฟ้า) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 172,680 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 121,087 บาท ลดลง 51,593 ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 328.00 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 230.00 บาท ลดลง 98.00 บาท หรือ -29.87%

-EGCO บริษัทมีเงินสดในมือสูงถึง 2.05 หมื่นล้านบาท ในขณะที่หุ้นก็ยังมี upside อีก แต่อาจมีความเสี่ยงในเรื่องของความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่ การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ

7.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 136,862 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 102,321 บาท ลดลง 34,541 ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 52.50 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 39.25 บาท ลดลง 13.25 บาท หรือ -25.23%

-BGRIM เพิ่งขยายโรงไฟฟ้าประเภท SPP โดยบริษัทอนุมัติการซื้อหุ้น 70% ในโรงไฟฟ้าอ่างทอง โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซขนาด 123 MW ในจังหวัดอ่างทอง จะช่วยหนุนกำลังการผลิตในปี 2563

8.RATCH (บมจ.ราช กรุ๊ป) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 99,687 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 82,650 บาท ลดลง 17,037 ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 68.75 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิด ที่ 57.00 บาท ลดลง 11.75 บาท หรือ -17.09%

RATCH เพิ่งทุ่มเงิน 662 ล้านบาท ซื้อหุ้นสามัญ NER Singapore Ple.Ltd.ในสัดส่วน 49% หวังลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กเน็กชิฟ เอ็นเนอร์จี้ ระยอง

9.TOP (บมจ.ไทยออยล์) Market Cap สิ้นปี 62 อยู่ที่ 142,291 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 63,241 บาท ลดลง 79,050 ล้านบาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 69.75 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 39.25 บาท หรือ -56.27%

TOP เป็นบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และเงินลงทุนระยะสั้น 76,936 ล้านบาท มากที่สุดในตลาดฯ ณ ตอนนี้ค่ะ (ไม่นับรวมหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นสภาพคล่องต่ำ)

10.TTW (บมจ.ทีทีดับบลิว) มาร์แกตแคปสิ้นปี 62 อยู่ที่ 55,062 ล้านบาท ล่าสุด 1 เม.ย.63 อยู่ที่ 51,870 ล้านบาท ลดลง 3,192 บาท

ราคาปี 63 เทียบจากสิ้นปี 62 ราคาปิดที่ 13.80 บาท ราคาล่าสุด 1 เม.ย.63 ปิดที่ 13.00 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ -5.79%

TTW วันที่ 1 เม.ย.63 ที่ผ่านมา เป็น 1 หลักทรัพย์ที่ดันดัชนีมากที่สุด 5 อันดับแรกของตาราง โดย TTW ปิดที่ระดับ 13.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อดัชนี 0.1113 จุด

อย่างไรก็ตาม กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) ผูกไว้กับเรื่องน้ำมันเป็นหลัก ฉะนั้นต้องศึกษาราคานำมันตลาดโลกให้ลงลึกนะคะ วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย

Facebook Comments
Skip to toolbar