1.DELTA เป็นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังสูงที่สุด 1178.50%
ราคาสิ้นปี 62 ปิดที่ 53.50 บาท ณ ราคาล่าสุด 25 ธ.ค.63 ปิด 684.00 บาท เพิ่มขึ้น 630.00 บาท หรือ 1178.50%
และล่าสุด 25 ธ.ค.63 DELTA ติดอันดับ 1 หุ้นที่มีมูลค่าซื้อ-ขายสูงสุด 8,543.46 ล้านบาท ราคา +148.00 บาท (+27.61%)
2.DELTA เป็นหุ้นที่มีสามารถทำรีบาวด์สูงสุด 2,433.33%
ในปี 2563 ราคาต่ำสุด 27.00 บาท (13 มี.ค.63) ขณะราคาล่าสุด 25 ธ.ค.63 ปิด 684.00 บาท เพิ่มขึ้น 657.00 บาท หรือ 2,433.33%
โดยใน 13 มี.ค.63 ราคาเปิดที่ 28.00 บาท สูงสุด 37.00 บาท ต่่ำสุด 27.00 บาท สุดท้ายปิดที่ 34.75 บาท
3.DELTA เป็นหุ้นที่มีราคาซื้อขายต่อหุ้นสูงที่สุดของไทย คือ 684.00 บาทต่อหุ้น
-เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ราคาพุ่งทะลุ 400 บาท แซงหน้าหุ้นที่มีราคาสูงสุดอันดับ 2 อย่าง บมจ.สมิติเวช (SVH) ซึ่งอยู่ที่ 395 บาทต่อหุ้น (ต่อมาในวันที่ 25ธ.ค.63 ราคาขึ้นไปปิดที่ 400.00 บาท)
-5 อันดับหุ้นที่ซื้อขายต่อหุ้นสูงที่สุดของไทย (ณ วันที่ 25 ธ.ค.63) คือ 1.DELTA อยู่ที่ 684.00 บาท 2.SVH อยู่ที่ 400 บาท 3.SCC อยู่ที่ 380.00 บาท 4.KYE อยู่ที่ 354.00 บาท และ 5.OHTL อยู่ที่ 330.00 บาท
4. DELTA เป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปที่สูงอันดับ 3 ในตารางคือ 853,209 ล้านบาท
อันดับ 2 คือ AOT ที่มีมาร์เกตแคป 892,856 ล้านบาท ห่างกัน 39,647 ล้านบาท หรือ 4.64%
อันดับ 1 คือ PTT ที่มีมาร์เกตแคป 1,355,033 ล้านบาท ห่างกัน 501,824 ล้านบาท หรือ 58.81%
ในขณะที่อันดับ 4 ADVANC มาร์เกตแคป 532,266 ล้านบาท และอันดับ 5 CPALL มาร์เกตแคป 530,003 ล้านบาท
5.อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง (Adjusted Price) เป็นบวกทั้ง 5 วัน/ 20 วัน/60 วัน/120 วันและ YTD
5 วัน 50.56% , 20 วัน 177.72% , 60 วัน 243.59% , 120 วัน 892.59% และ YTD 1178.50%
6.วันที่ปิดบวกมากที่สุด (คิดเป็น%) คือ 24 ธ.ค.63 คือ 27.62%
-จากราคา 420.00 บาท (23 ธ.ค.63) เมื่อปิดตลาด 24 ธ.ค.63 ราคาอยู่ที่ 536.00 บาท เพิ่มขึ้น 116.00 บาท หรือ 27.62%
-โดยในที่วันที่ 24 ธ.ค.63 ราคาเปิดที่ 420.00 บาท สูงสุด 544.00 บาท และต่่ำสุด 408.00 บาท แล้วไปปิดที่ 536.00 บาท
7.ในรอบปี DELTA ปิดตลาดเป็นบวกเกิน 15.00% ถึง 5 วัน
1. 25 ธ.ค.63 ราคาปิด 684.00 บาท หรือเพิ่ม 27.61%
2. 24 ธ.ค.63 ราคาปิด 536.00 บาท หรือเพิ่ม 27.62%
3. 8ธ.ค.63 ราคาปิด 327.00บาท หรือเพิ่ม 27.24%
4.26 พ.ย.63 ราคาปิด 225.00บาท หรือเพิ่ม 15.09%
5. 29 ก.ค.63 ราคาปิด103.50บาท หรือเพิ่ม15.00%
8.วันที่ปิดติดลบมากที่สุด(คิดเป็น%) คือ 12 มี.ค.63 อยู่ที่ -16.76%
จากราคา 43.25 บาท (11 มี.ค.63) เมื่อปิดตลาด 12มี.ค.63 ราคาอยู่ที่ 36.00 บาท ลดลงไป 7.25 บาท หรือ -16.76%
-โดยในที่วันที่ 12 มี.ค.63 ราคาเปิดที่ 38.25 บาท สูงสุด 40.00 บาท และต่่ำสุด 35.00 บาท แล้วไปปิดที่ 36.00 บาท
-และทั้งปี 63 ที่่ผ่านมา วันที่ปิดลบมากๆ เกิน 10% มีแค่ 4 วันเท่านั้น คือ 12 มี.ค.63 อยู่ที่ -16.76%
และอีก 3 วันคือ 10 พ.ย.63 อยู่ที่ -15.50% , 23 มี.ค.63 อยู่ที่ -11.27% ,16 มี.ค.63 อยู่ที่ -10.07%
9.DELTA เป็นหุ้นที่มี ค่า P/BV (Price to Book Value Ratio) สูงสุดในตาราง เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการดูหุ้นว่า ถูกหรือแพง เช่นดูว่า หุ้นที่เราซื้อถูกหรือแพงกว่าเจ้าของอยู่กี่เท่า เช่น หุ้นของบริษัท ก. มีราคาตลาดเท่ากับ 23 บาท และมีมูลค่าตามบัญชี 15 บาท P/BV Ratio จะเท่ากับ 1.53 เท่า (23 / 15) (อ้างอิง ตลาดหลักทรัพย์ฯ)
-อันดับ1.ELTA อยู่ที่ 23.12 เท่า 2.MORE อยู่ที่ 22.75 เท่า 3.STARK อยู่ที่ 18.43 เท่า 4.TQM อยู่ที่ 17.58 เท่า 5.COM7 อยู่ที่ 14.09 เท่า
ส่วนค่า P/E (Price to Earnings Ratio) ซึ่งเป็นอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาปัจจุบันในตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทในรอบปีนั้น นั้น โดย DELTA สูงเป็นอับดับที่ 8 คือ 144.53 เท่า
10.DELTA เป็นหุ้นที่มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) น้อยเป็นอันดับ 2 ของหุ้นใหญ่ (มาร์เกตแคป เกิน 1 แสนล้านบาท)
-ในบรรดาหุ้นตัวใหญ่ที่มีมาร์เกตแคป เกิน 1 แสนล้าน (41 หลักทรัพย์) DELTA เป็นหุ้นที่มี 22
35% จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย น้อยเป็นอันอับ 2 รอง จาก MAKRO ที่มี Free float แค่ 6.92%
อย่างไรก็ตาม เหลืออีก 3 วันจะหมดปี 2563 ต้องจับตาดูว่า DELTA จะขยับไปได้อีกหรือไม่ วันนี้ไปละค่ะ บ๊ายย