epahamalao

10 ตัวจี๊ด SETCLMV ปี 62 GROWTH UP แรง!

SETCLMV

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะไปล้วงตับหุ้นในกลุ่ม SETCLMV กันคร้าา ไปดูว่าในปี 62 นั้นมีตัวไหนกันบ้าง ที่ GROWTH UP แรงสุด ๆ พบว่าใน 35 ตัวใรกลุ่มนี้ นั้นมีเพียง 16 ตัว ที่ผงาดเป็นบวก แต่เลือกคัดมา 10 อันดับ ที่ราคาดีดขั้นมากที่สุดนะคะ

1.CBG (บมจ.คาราบาวกรุ๊ป) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 30.75 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 86.00 บาท เพิ่มขึ้น 55.25 บาท หรือ 179.67% ซึ่ง CBG นั้นแม้จะหลุดดัชนี MSCI แต่ไตรมาส 3/62 กำไร 732 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187% จากช่วงเดียวกันปีก่อนงวด 9 เดือน มีกำไร 1,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน

2.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 26.50 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 53.50 บาท เพิ่มขึ้น 27.00 บาท หรือ 101.88% ซึ่ง BGRIM เป็น 1ใน หุ้น 4 ตัว ที่ได้เข้าคำนวณ MSCI Global Standard และปีนี้ มี COD (Commercial Operation Date) เซ็นสัญญาโปรเจคโรงไฟฟ้าต่อเนื่องและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

3.ICHI (บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 2.98 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 2.12 บาท หรือ 71.14% ซึ่ง ICHI กำไรยังโดดเด่น ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 72.6 ล้านบาท คิดเป็น 206% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.7 ล้านบาท

4.TASCO (บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 14.50 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 22.10 บาท เพิ่มขึ้น 7.60 บาท หรือ 52.41%
TASCO เป็นหุ้นในกลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 4/62 จะเติบโต ส่วนไตรมาส 3/62 มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 712.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,260.58% จากปีก่อน 6.27 ล้านบาท

5.RATCH (บมจ.ราช กรุ๊ป) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 50.75 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 18.50 บาท หรือ 36.45% ซึ่ง RATCH หลังเข้าถือหุ้น บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด ลุยโครงการติดตั้งและพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคมและธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อให้บริการ Internet of Things ทำให้ราคาดีดเด้งเลยคะ

6.EGCO (บมจ.ผลิตไฟฟ้า) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 248.00 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 326.00 บาท เพิ่มขึ้น 78.00 บาท หรือ 31.45% ทั้งนี้ สุนันท์ ศรีจันทรา กูรู ชื่อดังเคยบอกว่า EGCO เป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันกองทุนทั้งในและต่างประเทศ ต้องซื้อไว้ติดพอร์ต ในฐานะหุ้นชั้นดีที่มีผลตอบแทนคุ้มต่อการลงทุนระยะยาว และจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ

7.BEC (บมจ.บีอีซี เวิลด์) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 4.82 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 5.95 บาท เพิ่มขึ้น 1.13 บาท หรือ 23.44% ซึ่ง BEC ถูกหมายหัวว่า มีโอกาสหลุดจาก SET 100 แต่ในภาพรวมแล้วยังถือว่าเป็นหุ้นที่มีการเติบโต เล็กๆ ต้องรอดูทีเด็ด ของซีอีโอหนุ่มอริยะ พนมยงค์ ในปีหน้าค่ะ

8.SPRC (บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 9.60 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 9.37% ซึ่ง SPRC เป็นหุ้นได้เฮ จากเข้าดัชนี MSCI Global Small Cap รวมถึงยังได้รับประโยชน์จากมาตรการองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ที่เรือส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแทนน้ำมันเตา

9.MINT (บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 34.00 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 8.82% ซึ่ง MINT หนึ่งในหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง มีสตอรี่ต่อเนื่อง และที่สำคัญจะมีการบุ๊กรายได้จาก เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป (NHH หรือ NH Hotel) เข้ามาต่อเนื่องน่าจะทำให้ราคาขยับขึ้นในอนาคตค่ะ

10.SAMART (บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น) ราคาสิ้นปี 61 ปิดที่ 6.35 บาท ราคาล่าสุด (13 ธ.ค.62) ปิดที่ 6.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือ 8.66% ซึ่ง SAMART ติดอันดับ 4 หุ้นที่พลิกมีกำไรสุทธิปังๆ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน ซึ่งไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิ 124.41 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 73.88 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีอีก 6 ตัวที่ราคาเป็นบวก คือ BDMS (บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ) ราคาเพิ่ม 2.82% , SGP (บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์) 2.35% , UTP (บมจ.ยูไนเต็ด เปเปอร์) 2.10% , CKP (บมจ.ซีเค พาวเวอร์) 1.81% , TOP (บมจ.ไทยออยล์) 1.25% , AMATA (บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน) 0.97%

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่ม SETCLMV ได้จัดขึ้นมาเดือน มิถุนายน 2561 CLMV ย่อมาจาก Cambodia, Laos, Myanmar และ Vietnam (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) ซึ่งมีแนวโน้มโตต่อเนื่องค่ะ…วันนี้ไปล่ะค่ะบ๊ายย

Facebook Comments
Skip to toolbar