มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้จะเหลาเรื่่อง อสังหา ริมทรัพย์ กันดีกว่านะค่ะ ว่า อีก 6 เดือนที่เหลือของปี 2561 นั้นจะยังสดใส กาววาว อยู่ดีมีสุขหรือไม่?
ก่อนจะไปส่องอสังหาฯครึ่งปีหลังนั้น เรามาดูครึ่งปีแรกกันก่อนนะค่ะ …นักวิเคราะห์เกือบทุกค่ายมองไปในทิศเดียวกันค่ะ ว่า กำลังซื้อของประชาชน ยอดขาย ต่างๆ การขยายอาณาจักรกิจการ ยังคงมีอัตราการเติบโตได้ในทิศทางที่ดี อันเนื่องมาจากการทั้งผลัก ทั้งดัน ทั้งหนุน แบบสุดตัวของภาครัฐ ที่ไม่เพียงอวยคนไทยแล้ว ยังเอื้อต่างชาติด้วยสารพัดมาตราการภาษีสุดหอมหวานค่ะ
ประกอบกับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมี”ปัจจัยบวก”มาจากเรื่อง “ความโปร่งใส” ค่ะ เพราะไทยได้รับการจัดให้เป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโปร่งใสอยู่ในอันดับที่ 34 ของโลกในปี 2561 นี้ (เป็นการปรับขึ้นจากอันดับที่ 38 ในปี 59) และเมื่อในกลุ่มอาเซียน 6 ประเทศ เราอยู่ในอันดับที่ 3 ค่ะ
ดังนั้นจากปัจจัยบวกด้านต่างๆ รวมไปถึง ตัวเลขเศรษฐกิจที่หน่วยงานภาครัฐ เอกชนได้ออกมาปรับประมาณการณ์ตัวเลขจีดีพีปี 2561 เติบโตได้มากกว่าร้อยละ 4 ส่งผลให้ครึ่งแรกของปี 2561 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีการลงทุน รุกโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้น อันหมายถึงความเชื่อมั่้นในสภาพเศรษฐกิจ และการเมือง บ้านเราค่ะ
ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยัง ครึ่งปีหลัง 2561 ที่กำลังซื้อยังไม่ตก การเช่าสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรมปรับตัวสูงขึ้น จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น และนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แถมการลงทุนจากภาครัฐในเมกะโปรเจคหลายแสนล้าน (โดยเฉพาะEEC หนุนอีกแรง) จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ในระดับหนึ่งเลยที่เดียวค่ะ
นอกจากนี้ ครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงที่โครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบจะมีการโอนกรรมสิทธิ์มากขึ้น ซึ่งในปี 61 บริษัทอสังหาฯ(อยู่ในตลาด) วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 337 โครงการ มูลค่ากว่า 4.64 แสนล้านบาท คาดการณ์ว่ากำไรกลุ่มอสังหาฯ ปี 2561 จะเท่ากับ 4.23 หมื่นล้านบาท เติบโต 17% (คาดไตรมาส 2ตัวเลขน่าจะสูงกว่าไตรมาสแรก)
เมื่อเข้าไปสอดส่อง ในตลาดหุ้นบ้านเรา พบ ผู้เล่น 9 รายขาใหญ่ คือ บมจ.เอพี ไทยแลนด์ (AP), บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC), บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH), บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI), บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH ), บมจ.แสนสิริ (SIRI), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) และ บมจ.ศุภาลัย ( SPALI )
ตัวเจ๋งๆ น่าจะเป็น SPALI (มาร์เกตแค๊ป 46,978.32ล้านบาท / P/E 7.84 ) LH (มาร์เกตแค๊ป 137,421.70 ล้านบาท / P/E 12.32 ปันผล 6.47) PSH (มาร์เกตแค๊ป 44,864.35 ล้านบาท / P/E 7.96 ปันผล 10.19)
นอกจากนี้ แล้ว ผลตอบแทนจากอัตราเงินปันผลจากกองทุนอสังหาฯ ในไทย โดยเฉลี่ยยังสดใสนะค่ะ อยู่ที่ 5.82% (ข้อมูลเดือนก.ค. 61 ) ซึ่งยังสูงกว่าอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 5 ปี ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2.12% (ข้อมูลเดือนก.ค. 61 )
และแม้ ตลาดอสังหาฯ จะถูกยกย่องว่ายังมีอนาคต แต่ก็มีเสียงตะโกนมาติดเบรคอยู่บ้างค่ะ เพราะทาง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.)ประชุม เครียดแล้วออกมาเตือนว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีความเปราะบางมากขึ้นในตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกัน สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ) ยังปรับเพิ่มขึ้น
พร้อมกันนั้นเศรษฐกิจในภาพรวม ที่ยังอึมครึมด้วยปัจจัยลบต่างๆ ทั้งสงครามการค้า กระแสเงินไหลออก และแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบื้ย อาจลดทอนความร้อนแรงลงไปบ้างค่ะ
แต่อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์ยังให้เครดิตว่า หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ยังเป็นตัวเลือกในช่วงตลาดผันผวน โดยหุ้นกลุ่มอสังหาฯ นั้น ยังอยู่ในกลุ่ม “หุ้นกลุ่มปลอดภัย(Defensive) หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนสม่ำเสมอ มั่นคง ไม่แปรผันไปตามสภาวะตลาด
และยิ่งเทรด์เมืองสุขภาพเอาใจผู้สูงวัยกำลังมาแรง น่าจะพยุงให้กลุ่มอสังหาฯ ยังพอน่าคบหาได้ค่ะ…ไปละบ๊ายย
——————————-
ติดตามที่ :
#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน