มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า ปลายสัปดาห์ก่อน ลุ้นระทึกกันทั้งประเทศ พี่ ปาบึก เล่นงานซะ 7 จังหวัดภาคใต้งอมกันไปหมด ช่วงนี้ยังอยู่ในโหมดเยียวยา ฉะนั้นแล้วเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ อิป้าจะพาไปสอดส่องหุ้นกลุ่มไหน ตัวใดที่น่าจะได้รับผลประโยชน์ ในช่วงของการฟื้นฟู สถานการณ์กันบ้างค่ะ
แน่นอนว่า หลังอุทกภัยผ่านพ้นก็มาถึงฤดูการซ่อมแซม ทั้งบ้านเรือน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ทรัพย์สิน ต่างๆ ฉะนั้นแล้ว ธุรกิจกลุ่มที่น่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุดน่าจะเป็น “กลุ่มวัสดุก่อสร้าง” ซึ่งมีหลายตัว รวมไปถึงกลุ่มค้าปลีก-อาหาร เดี๋ยวจะพาไปส่องที่ล่ะตัวนะคะ
เริ่มจากกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ตัวพิมพ์นิยมคือ HMPRO (บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์) มาร์เกตแคป 194,637.73 ล้านบาท มี บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ถือหุ้นใหญ่ 30.23%ตัวนี้ตั้งแต่เปิดปีใหม่ 2562 มาไม่ค่อยสู้ดีนักราคาดิ่งเอาๆ ลบติดต่อกัน 3 วันติด จากเดิม 28 ธ.ค.61 อยู่ที่ 15.20 บาท ล่าสุด 14.80 บาท (4 ม.ค.62) คาดว่าพี่ปาบึกอาจทำให้ราคาขยับขึ้นได้บ้างค่ะ
อย่างไรก็ตาม HMPRO นั้นเป็น1ใน 17 หุ้นที่ปี 61 ราคาปรับขึ้น นอกจากนี้ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า คาดกำไรไตรมาส4/61 จะเป็นจุดสูงสุดของปีตามฤดูกาล และยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่องในปี 62 จากการบริโภคดีขึ้น ผสาน โมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง….สอดคล้องกับ ด้าน บล.ทรีนีตี้ ระบุ ว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/61 เติบโตทั้งเทียบจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากเป็น High Season
ตัวต่อมา ร้านค้าของตกแต่ง ซ่องแซมบ้านชื่อดัง GLOBAL – บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 71,626.30 ล้านบาท มี บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 30.02% ตัวนี้ช่วงก่อนปีใหม่62 ราคาดิ่งนรกมาก จากเมื่อ วันที่ 19 ธ.ค. 61 ราคาอยู่ที่ 20.70 วันรุ่งขึ้นทรงๆ จากนั้นร่วงติดกัน 5วัน อยู่ที่ 18.70 แล้วกระเตื้องจึ้นมา 2วัน รุดลงไปอีก ล่าสุด อยู่ที่ 17.90 (4 ม.ค.62)
อย่างไรก็ตาม ในปี61 นั้น มีการสำรวจว่า มีเพียงแค่ 17 หลักทรัพย์เท่านั้นที่ราคาปรับตัวขึ้นได้ (หุ้นที่ราคาหุ้นสวนทางดัชนี) ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ในระดับ 20% ขึ้นไป โดย GLOBALติดอันดับด้วย 29.29%
ตัวต่อมา เมื่อบ้านพัง เสียหาย การใช้สีทาบ้าน จึงกลายเป็นสิ่งที่จะเป็น TOA (บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์) มาร์เกตแคป 67,971.50 ล้านบาท บริษัท ทีโอเอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 29.99% ตัวนี้ก่อนปีใหม่ 62 ราคาลุ่มๆ ลอนๆ ปลายปี 61 อยู่ที่ 33.00 บาท พอขึ้นปีใหม่ 62 ดูดีขึ้นตามลำดับ บวกติดกัน 2 วัน ล่าสุด 33.50 บาท (4 ม.ค.62)
ตัวต่อมา ปูนก็สำคัญเช่นกันคะ SCC (บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย) ก่อนปีใหม่ 62 ราคาบวกมา 4 วันติดอยู่ที่ 436.00 บาท พอขึ้นปีใหม่ ยวบเล็กแล้วกลับมาดีดได้เท่าเดิม ล่าสุด 436.00 บาท (4 ม.ค.62) ส่วน SCCC (บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง) ตัวนี้ปลายเดือน พ.ย. 61 อยู่ที่ 237.00 บาท พอมาคริสมาส อยู่ที่ 210 บาท จากนั้นกราวรูดเหลือปิด 205.00 บาท (28 ธ.ค.61) พอข้ามปีขัยบมาได้ปิด 217.00 บาท (4 ม.ค.62)
นอกจากนี้แล้วหลังจากถนนขาด ทางพัง การซ่อมแซม การใช้ยางมะตอย สูงขึ้นแน่นอน TASCO (บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์) ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางมะตอยที่ใช้สร้างและซ่อมบำรุงถนน ตัวนี้ มาร์เกตแคป 22,820.41 ล้านบาท BNP PARIBAS SECURITIES (ASIA) LTD-FOR COLAS ถือหุ้นใหญ่ 31.37% และมี (บมจ.ทิปโก้ฟูดส์) ถืออันดับ 2 คือ 23.65%
ด้านราคา TASCO ก่อนปีใหม่ และหลังปีใหม่ ราคาเท่ากัน ปิดล่าสุด 14.50 (4 ม.ค.62) ผู้บริหารคาด ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/2561 จะฟื้นตัวเนื่องจากยอดขายยางมะตอยตลาดในประเทศเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน โดยได้รับแรงหนุนจากงบประมาณของภาครัฐปี 2562 และตลาดต่างประเทศจะมีปริมาณขายสูงขึ้น
ส่วนกลุ่มรับประโยชน์อ้อมๆ อย่างค้าปลีก CPALL (บมจ.ซีพีออล์) , ROBINS (บมจ.โรบินสัน) marko (บมจ.สยามแม็คโคร) ยอดขายน่าจะเพิ่มขึ้นไม่มากกน้อยคะ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ ปาบึกนี้ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย ได้เป็นอย่างดีคะวันนี้ไปละบ๊ายย