1.MONO (บมจ.โมโน เน็กซ์) นอกจากทีวีดิจิทัลแล้วยังมี ธุรกิจวิดีโอออนดีมานด์ ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ และธุรกิจผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ธุรกิจสื่อออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ MThai ฯลฯ ถือหุ้นใหญ่สุดคือนายพิชญ์ โพธารามิก 64.28%
-ในปี2563 ผลงานด้านราคา มาแรงเลยที่เดียวจากราคา 1.13 บาท เมื่อปลายปี 2562 แต่ช่วงนี้ (22ต.ค.63 ) ราคาปิดที่่ 2.66 บาท
-เมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง (Adjusted Price) YTD ปี 2563 อยู่ที่ 135.40% ส่วนปี 2562 YTD -33.53% และปี 2561 YTD -58.74%
-เมื่อดูผลประการการ 6M/2563 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ -558.17 ล้านบาท , กำไรต่อหุ้น -0.16 บาท ,อัตรากำไรสุทธิ -79.05%
2.RS (บมจ.อาร์เอส) นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ถือใหญ่สุด 22.09%
-ในปี2563 ผลงานด้านราคาแจ่มมาก จากราคา 12.30 บาท เมื่อปลายปี 2562 แต่ช่วงนี้ (22ต.ค.63 ) ราคาปิดที่่ 18.10 บาท
-เมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง (Adjusted Price) YTD ปี 2563 อยู่ที่ 47.15% ส่วนปี 2562 YTD -16.89% และปี 2561 YTD -46.67%
-เมื่อดูผลประการการ 6M/2563 กำไร(ขาดทุน) สุทธิ 295.09 ล้านบาท , กำไรต่อหุ้น 0.31 บาท , อัตรากำไรสุทธิ 16.18%
3.AMARIN (บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง) องค์กรกว่า 33 ปี เข้าตลาดหุ้นตั้งแต่ปี 2535 ขณะนี้มี “เสี่ยเจริญ” ในนามบริษัท วัฒนภักดี จำกัด ถือใหญ่สุด 60.11% รองลงไปเป็นคนในตระกูล “อุทกะพันธุ์” ซึ่งมีโครงสร้างฝ่ายบริหารแล้ว ยังมี นางเมตตา อุทกะพันธุ์ เป็นประธานกรรมการ และนายฐาปน สิริวัฒนภักดี เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร และรองประธานกรรมการ
-ในปี 2563 ผลงานด้านราคายังไม่ดีเท่าไรนักจากราคา 4.16 บาท เมื่อปลายปี 2562 แต่ช่วงนี้ (22ต.ค.63) ราคาปิดที่่ 3.64 บาท
-เมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง (Adjusted Price) YTD ปี 2563 อยู่ที่ -12.50% ส่วนปี 2562 YTD -12.61% และปี 2561 YTD -18.63%
-เมื่อดูผลประการการ 6M/2563 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ -85.01 ล้านบาท , กำไรต่อหุ้น -0.09 บาท , อัตรากำไรสุทธิ -7.17%
4.BEC (บมจ.บีอีซี เวิลด์) มีนาย ทวีฉัตร จุฬางกูร ถือหุ้นใหญ่สุด 14.24% ตามมาด้วย น.ส.รัตนา มาลีนนท์ และคนจากตระกูล มาลีนนท์ อีกหลายคน
-ในปี 2563 ผลงานด้านราคายังไม่ดีเท่าไรนักจากราคา 5.90 บาท เมื่อปลายปี 2562 แต่ช่วงนี้ (22ต.ค.63) ราคาปิดที่่ 4.76 บาท
-เมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง (Adjusted Price) YTD ปี 2563 อยู่ที่ -19.32% ส่วนปี 2562 YTD 22.41% และปี 2561 YTD -63.21%
-เมื่อดูผลประการการ 6M/2563 ตัวแดงพรืด…กำไร(ขาดทุน) สุทธิ -541.92 ล้านบาท , กำไรต่อหุ้น -0.27 บาท , อัตรากำไรสุทธิ -19.04%
5.GRAMMY (บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) มีนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ถือหุ้นใหญ่สุด 47.91% ตามมาด้วย 2 พี่น้อง “จุฬางกูร” นายทวีฉัตร ถือ 16.32% นายณัฐพล ถือ 9.89%
-ในปี 2563 ผลงานด้านราคายังไม่ดีเท่าไรนักจากราคา 10.30 บาท เมื่อปลายปี 2562 แต่ช่วงนี้ (22ต.ค.63) ราคาปิดที่่ 9.40 บาท
-เมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง (Adjusted Price) YTD ปี 2563 อยู่ที่ -8.74% ส่วนปี 2562 YTD 71.67% และปี 2561 YTD -41.75%
-เมื่อดูผลประการการ 6M/2563 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 48.46 ล้านบาท , กำไรต่อหุ้น 0.06บาท , อัตรากำไรสุทธิ 2.13%
6.MCOT(บมจ.อสมท) รัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลัง ถือหุ้นใหญ่สุด 65.80% รองมาเป็นธนาคารออมสิน 11.48%
-ในปี2563 ผลงานด้านราคายังไม่ดีเท่าไรนักจากราคา 9.75 บาท เมื่อปลายปี 2562 แต่ช่วงนี้ (22ต.ค.63) ราคาปิดที่่ 3.00 บาท
-เมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง (Adjusted Price)YTD ปี 2563 อยู่ที่ -69.23% ส่วนปี 2562 YTD 7.14% และปี 2561 YTD -21.55%
-เมื่อดูผลประการการ 6M/2563 กำไร(ขาดทุน) สุทธิ -1,061.34 ล้านบาท , กำไรต่อหุ้น -1.55 บาท , อัตรากำไรสุทธิ -134.57%
7.WORK (บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์) ถือหุ้นใหญ่โดยนายปัญญา นิรันดร์กุล 23.97 % และนายประภาส ชลศรานนท์ 22.94%
-ในปี2563 ผลงานด้านราคายังไม่ดีเท่าไรนักจากราคา 14.00 บาท เมื่อปลายปี 2562 แต่ช่วงนี้ (22ต.ค.63) ราคาปิดที่่ 9.30 บาท
-เมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง (Adjusted Price) YTD ปี 2563 อยู่ที่ -33.57% ส่วนปี 2562 YTD -39.91% และปี 2561 YTD -72.34%
-เมื่อดูผลประการการ 6M/2563 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 48.33 ล้านบาท , กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท , อัตรากำไรสุทธิ 4.43%
8.NMG (บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป) ติดเครื่องหมาย SP, C
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ตระกูล จุฬางกูร กำลังสยายปีก เข้าไปซื้อหุ้นทีวีดิจิตอลมากขึ้น นั้นอาจแสดงนัยยะสำคัญบางอย่างนะคะ วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย