มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของเพจ “อ่านงบการเงินไม่ยาก” รวมถึงผลงานหนังสือด้านการลงทุนหุ้นอีกหลายเล่ม และช่องยูทูป MONEY HERO “คุณธวัชชัย ธูปอ่อน หรือ คุณพืช” ที่ใคร ๆ หลาย ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งอิป้าเองก็ไม่พลาดที่จะนำเคล็ดลับ รวมถึงเทคนิคการลงทุนในหุ้นในแบบฉบับของคุณพืชมาฝากกัน
โดยคุณพืช เริ่มเล่าให้เราฟังว่า “ผมเป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี คุณพ่อคุณแม่มีอาชีพค้าขาย และเริ่มสนใจการลงทุนในหุ้นตั้งแต่เริ่มเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพราะเห็นลูกพี่ลูกน้องที่เป็นญาติกันเล่นอยู่จึงเกิดความสนใจ แต่ในช่วงสมัยนั้นก็ต้องศึกษาหาความรู้เอาเอง โดยเริ่มจากการอ่านหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ ซึ่งก็มีคำศัพท์เฉพาะที่ยาก ๆ ซึ่งในตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่
“ช่วง 10 ปีที่แล้ว เริ่มการลงทุนในตลาดหุ้นครั้งแรก เล่นแบบไม่รู้เรื่องเลย หุ้นตัวแรกที่ซื้อคือ CPF (บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) ตอนนั้นซื้อตอน 25 บาท และไปขายที่ราคา 30 บาท ในช่วงเพียงหนึ่งเดือน และมีขาดทุนบ้างเพราะด้วยความที่เราไม่รู้ ไม่ได้วิเคราะห์เลือกที่จะเชื่อแต่มาร์เก็ตติ้งเพียงอย่างเดียว ก็เลยตัดสินใจศึกษาเองอย่างจริงจัง”
ปัจจุบันผมจะซื้อหุ้นไม่เกิน 2 ตัว จะใส่ไปเต็มที่กับสองตัวนั้น และทำกำไรเป็นรอบ ๆ และก็ย้ายไปตัวอื่น หรือเรียกว่า การทำ BIG SHOT เช่น สมมุติว่า ผมสนใจเกี่ยวกับธุรกิจไฟแนนซ์ ผมก็ไปดูว่ากลุ่มธนาคารอาจจะมีการเติบโตยาก ฉะนั้นผมลองหันมาในหุ้น Non-Bank ของการปล่อยกู้คล้าย ๆ ธนาคารแทน
หรือในเรื่องของประกันที่จะได้ข้อดีประโยชน์จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เข้ามา หรือถ้ายังมองต่อไปอีกยังของการฉีดวัคซีน โรงพยาบาลก็จะได้ประโยชน์ แต่ถ้าเราไปเลือกโรงพยาบาลใหญ่โอกาสในการเติบโตมันยากแล้ว ซึ่งมันอาจจะได้ประโยชน์จริง แต่มาพิจารณาไซด์ขนาดนี้คุณจะต้องทำขนาดไหนเพื่อให้เป็นดับเบิ้ล ฉะนั้นเราก็จะไปเลือกโรงพยาบาลที่มันไซด์เล็ก ๆ แต่สามารถมีการเติบโตเป็น 2 เท่าได้ หรือหากมีการขยายสาขาเพียงแค่ 2 – 3 สาขา แต่มีการเติบโตไปกว่า 20% ก็จะทำให้น่าสนใจ
ในส่วนของการลงงทุนหุ้นครึ่งปีหลังนั้น ผมมองว่า “เกมมันจะยากขึ้น ตั้งแต่เดือนนี้ มิ.ย.เป็นต้นไป ด้วยปัจจัยหลักคือ 1. ตัวเศรษฐกิจ เราจะเห็นว่าเศรษฐกิจไม่ได้ดี แต่ราคาหุ้นมันเริ่มขึ้นมาตลอด และเราควรวิเคราะห์คัดเลือกหุ้นได้จากที่ผมบอกไว้ก่อนหน้านี้ คือ 1.ดูธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ต้องบอกว่า โควิด-19 ที่เข้ามามันจะทำให้บางบริษัทย่ำแย่ไปเลยกับบางบริษัทที่มีการเติบโต คือในวิกฤติที่เข้ามาจะมีบางธุรกิจที่เติบโตอย่างเช่น สินค้าเทคโนโลยี คนอยู่บ้านมากขึ้น คนซื้อสินค้าโทรศัพท์มือถือ แท็บเลต Gadget ต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งที่จะได้ประโยชน์ตรงนี้ก็คือ COM7 (บมจ.คอมเซ) โตมากขึ้น ในขณะที่หุ้นตัวอื่นมันดรอปลง แม้แต่เซเว่น CPALL (บมจ.ซีพี ออลล์) ที่คิดว่า คนต้องกินต้องใช้ก็ดรอป
หรือธุรกิจบางอย่างที่ได้รับผลบวกโดยตรงเลยอย่างถุงมือยาง หรือกลุ่มธุรกิจยางพาราที่ได้รับผลโดยตรง ก็อยากให้เพื่อน ๆ ลองมองภาพจริงก่อนอย่ามองในสิ่งที่คิดว่ามันจะเกิด มองภาพที่มันมีโควิด-19 เข้ามาครั้งแรก เราจะจัดการให้ได้ภายใน 3 – 6 เดือน ซึ่งไม่ได้ เพราะนี่เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่จบง่าย ๆ เกมนี้ต้องสู้กันยาว ใครที่ขายของที่มีผลบวกจากเหตุการนี้ก็ลองไปดูประกัน โรงพยาบาล ไม่จะบอกว่าไม่มีวัคซีน แต่สุดท้ายก็ต้องมี ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม สุดท้ายก็ต้องมี กลุ่มนี้ก็จะได้รับผลประโยชน์ เพราะมีหลายคนที่อยากฉีดวัคซีน หรือวัคซีนทางเลือกก็ตาม
สุดท้าย “คุณพืช” ฝากแนะนำนักลงทุนหน้าใหม่ว่า อย่างแรกเลย คืออย่ารีบผมเชื่อเพราะในสมัยก่อนผมก็เป็นนักลงทุนมือใหม่ที่เข้ามาจะมีความหิวเยอะ แล้วจะคิดว่า การลงทุนมันเป็นเรื่องง่าย ฉะนั้นไม่ต้องรีบ เข้ามาในตลาดไม่หายไป อันแรกต้องศึกษาให้ดีก่อน รู้ก่อนว่า เราเป็นไทด์ไหน ถ้าเราเป็นคนใจเย็น ไม่รีบร้อนก็อ่านพื้นฐานไปเลย ไปให้มันสุด ค่อย ๆ ลงทุนน้อย ๆ ก่อน ค่อย ๆ เรียนรู้ไป
วันนี้ถือว่าได้ความรู้จากกูรูอีกท่านนี้ไม่ใช่น้อยเลยนะคะ สามารถที่จะนำไปปรับใช้ในพอร์ตของตัวเองได้ ก็อาจจะทำให้พอร์ตของคุณนั้นไม่ติดดอยได้ …วันนี้ไปล่ะค่ะ…บ๊ายยยย