มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันนี้คอลัมน์ “จับเข่าคุย” อิป้าขอนำเสนอประสบการณ์ การลงทุนของหนุ่มนายหนึ่ง “ป้อม – ธัญพิสิษฐ์ ลาภหลาย” ผู้ที่หลงใหลการลงทุนในหุ้นตั้งแต่ครั้งยังเรียนปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
จากความสนใจชื่นชอบและใฝ่เรียนรู้ ทำให้เกิดความฝันว่า อยากที่จะทำงานในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้นมา จึงได้เริ่มศึกษาวิธีการลงทุนด้วยตนเองจากการอ่านหนังสือหลายๆเล่ม โดยหนังสือที่ชอบเป็นพิเศษก็จะมี Rich Dad (พ่อรวยสอนลูก) ,หนังสือของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และหนังสือของภาววิทย์ กลิ่นปทุม
แม้ว่าในขณะนี้จะไม่ได้ทำงานที่ใฝ่ฝันก็ตาม แต่ก็ทำให้มองเห็นโอกาสสร้างรายได้ในตลาดทุนได้ด้วยการลงทุนในหุ้น โดยจะเน้นการลงทุนกับหุ้นในบริษัทใหญ่ๆ ใน Set50 และ Set100 จะเน้นหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานดีและบริษัทที่มีนโยบายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งในการเข้าซื้อหุ้นแต่ละครั้งจะใช้การวิเคราะห์กราฟ Technical ช่วยเป็นตัวบอกสัญญาณการซื้อ-ขาย
“ป้อม” แอบกระซิบอิป้าว่า หุ้นที่มีการลงทุนอยู่ก็มี PTT-ปตท. เริ่มสนใจจาก PTT มีการแตก Par ออกมาจากเดิมราคา 400-450 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันอยู่ที่ราคา 40-50 บาทต่อหุ้น ทำให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น PTT เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งอยู่แล้วและยังสร่างกำไรอย่างต่อเนื่อง นโยบายปันผลทุกปี จึงได้หาจังหวะทยอยซื้อหุ้นและสะสมมาเรื่อยๆ ปัจจุบันหุ้น PTT อยู่ที่ราคา 51.50 บาทต่อหุ้นและมีการประกาศจ่ายปันผลที่ 0.8 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 61 ที่ผ่านมา
หุ้นอีกบริษัทที่ได้มีการลงทุนคือ AOT-การท่าอากาศยาน เริ่มสนใจจากการที่ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมากและท่าอากาศยานหลักของประเทศก็อยู่ในการดูแลรับผิดชอบของ AOT ซึ่งจะเห็นได้ว่า AOT มีผลประกอบการที่ได้กำไรต่อเนื่องทุกๆปี ล่าสุดมีการจ่ายปันผลที่ 0.86 บาทต่อหุ้นเมท่อวันที่30 พ.ย.60 ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 63.50 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้ “ป้อม” เองยังสนใจหุ้น BDMS เป็นกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งตอนแรกไม่ได้มีความสนใจในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเลย แต่เริ่มสังเกตจากการได้เห็นชื่อโรงพยาบาลกรุงเทพ มีอยู่หลายแห่งตามจังหวัดต่างๆ จึงเริ่มมีความสนใจและเริ่มหาข้อมูลของโรงพยาบาลกรุงเทพ จึงพบว่านอกจากโรงพยาบาลกรุงเทพเองที่มีถึง 20 แห่ง ยังมีกลุ่มโรงพยาบาลในเครือของโรงพยาบาลกรุงเทพอีก 27 แห่งรวมเป็น 47 แห่ง
ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลย มีผลกำไรหลายพันล้านบาทต่อปี นโยบายปันผลปีล่าสุดอยู่ที่ 0.13 บาทต่อหุ้น ประกาศเมื่อ 12 ก.ย. 61 เลยมีความสนใจที่จะลงทุนในหุ้นตัวนี้ ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 24.90 บาทต่อหุ้น
“ป้อม” มองว่า จากหุ้นที่มีการลงทุนไปทั้ง 3 รายการนี้ PTT,AOT,BDMS คือหุ้นที่มีความตั้งใจลงทุนแบบระยะยาว แต่ก็มีหุ้นบางตัวที่มีการซื้อ-ขายแบบเก็งกำไรจากราคาหุ้นก็มีหุ้น BTS เดิมคิดว่าเป็นหุ้นที่น่าจะมีการเติบโตเพราะ ดูมีคนใช้บริการมากและมีการขยายเส้นทางเพิ่มเติม แต่ราคาไม่ค่อยมีการขยับขึ้น ราคาจะอยู่ที่ 9.00-9.50. บาทต่อหุ้น มีการขึ้นลงเป็นระยะเลยทำการขายหุ้นตัวนี้ออกไป
ส่วนการลงทุนด้านอื่น “ป้อม” เป็นพนักงานบริษัทเอกชน ทางบริษัทได้มีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากเมื่อเราต้องออกจากงานหรือเมื่อเกษียนอายุจากงานก็จะได้มีเงินก้อนไว้ใช้ นอกจากนี้ยังได้มีการซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์เอาไว้อีก 2 ฉบับ เมื่อครบระยะเวลาตามประกันชีวิตแล้วจะได้เงินก้อนคืนอีกและยังมีปันผลจ่ายคืนมาทุกปีอีกด้วย
อีกทั้งประกันชีวิตทั้ง 2 ฉบับนี้ยังเอาไปใช้ในการขอลดหย่อนภาษีได้ด้วย ซึ่งการทำประกันชีวิตไว้ก็เพื่อเป็นการวางแผนในอนาคตถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองก็ยังมีเงินก้อนจากประกันชีวิตให้กับครอบครัวของเราไว้ใช้จ่ายได้
มาถึงบรรทัดนี้แล้ว อิป้า คิดว่า “ป้อม” เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ใส่ใจการลงทุน และวางแผนอนาคตได้อย่างดีเลยนะค่าา แบบนี้อิป้าต้องนำไปสอนลูกสอนหลานบ้างแล้ว สุดท้ายนี้ “ป้อม” ได้ฝากถึงนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังจะเข้ามาลงทุนว่า การลงทุนในหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ได้ที่จะได้กำไรง่ายๆ เหมือนกัน การลงทุนมีความเสี่ยง
แต่ถ้ามีการบริหารจัดการดีๆ ความเสี่ยงก็น้อยลงได้เพราะฉะนั้นก่อนจะลงทุนให้ทำการศึกษาหาข้อมูลให้ดีๆ ก่อนกระโจนลงสู่สนามหุ้นกันนะค้าาา ไปละ…บ๊ายยย
———————————-
ติดตามที่ :
#หุ้น #กองทุนรวม #fund #set #Mutualfund #epahamalao #อิป้าหามาเล่า #ตลาดหุ้น #ตลาดหุ้นไทย #mai #ลงทุน #ออมเงิน