“กบ-โสภี” CEO สาวแกร่ง! หลงรักหุ้นกลุ่มแบงก์-ขนส่ง

• Facebook
• Twitter
• Line

มาแล้วค่ะ อิป้าหามาเล่า วันก่อนค่ะคุณขา ไปป๊ะกันแฮ๋มกับขุ่นพี่นางหนึ่ง อดีตเหยี่ยวข่าวสาวมือฉมังด้านการลงทุน สายหุ้นและแบงก์ แล้วผันตัวไปเปิดบริษัทพีอาร์ของตัวเอง “กบ-โสภี ฉวีวรรณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO บริษัท ชมฉวีวรรณ จำกัด หรือ ชมพีอาร์ เลยจับนางมาเป็นตัวประกัน ขอความรู้มาเพียบเลยค่ะ จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เลยนำมาถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ อ่านกันเพลิน ๆ นะคะ ไปรู้จักกันเลย…

“กบ” เริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกก็ตอนเริ่มเป็นนักข่าวใหม่ ๆ กับการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์เพราะหลงรักมันมาตั้งแต่เริ่มเป็นนักข่าวสายแบงก์แล้ว เริ่มต้นตัวแรก KBANK (ธนาคารกสิกรไทย) ดูตลอดเวลา และ SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์) ตอนนี้ก็ยังถืออยู่ ก็ถือมาตั้งแต่ราคา 20 กว่าบาท และก็ถือ TMB (ธนาคารทหารไทย) ตั้งแต่ 25 บาท ทุกตัวตอนนี้ยังมีอยู่ในพอร์ตแม้ว่าหุ้นกล่มนี้จะไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่ แต่มองว่าในอนาคตก็ยังคงไปได้อยู่

กลุ่มต่อมาเป็นกลุ่มขนส่ง ลงทุนเยอะคือ BTS (บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์) และ BEM (บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ) ที่ซื้อเยอะเพราะมองว่า ในอนาคตที่คนจะต้องใช้ เลยมองที่การลงทุนแบบระยะยาวในเรื่องการคมนาคม และส่วนตัวไม่ค่อยได้ดูข้อมูลอะไรเยอะมาก ดูจากความเป็นไปได้การใช้ชีวิตของผู้บริโภค รวมถึง หุ้น CPF (บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) มองง่าย ๆ คือคนเราต้องกิน แต่เวลาจะซื้อหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคและคมนาคมจะซื้อเยอะ ซื้อหนัก ๆ หมายความว่า เป็นพอร์ตเอาไว้เก็บเงิน เมื่อเวลาเราอยากจะใช้เงินก็ขายมันออกมา

ส่วนในเรื่องของการบริหารงานพีอาร์นั่น “กบ” บอกว่า ไม่ง่ายเหมือนในสมัยก่อน เพราะสมัยนี้ต้องคิดงานให้ลุกค้ามาขึ้น 2 – 3สเตป นอกเหนือจากการส่งข่าว จัดงานแถลงข่าว ยังต้องคิดคอนเทนส์ที่จะพีอาร์ในช่องทางโซเชียลอีกด้วย เพื่อให้เกิดการรับรู้ของโปรดักซ์นั้น ๆ มากยิ่งขึ้น

โดยบริษัทชมพีอาร์ ชื่อทางการที่เข้าจดทะเบียนคือ บริษัท ชมฉวีวรรณ จำกัด โดยการนำชื่อคุณพ่อมาตั้ง และนามสกุลมาต่อท้าย รวมกันเป็น “ชมฉวีวรรณ” ซึ่งร่วมกันก่อตั้งกับน้องสาวสองคน ซึ่งน้องสาวก็จะดูแลในส่วนของออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง เป็นหลัก และก็ดูวางแผนออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง เป็นหลัก และยังมีแผนกเออีพีอาร์ คือติดต่อประสานงานลูกค้ารับบรีฟ รับโจทย์ และอีกฝ่ายคือฝ่ายมีเดียร์ ทำหน้าที่ประสานงานกับนักข่าวและคิดแผนพีอาร์ให้กับลูกค้า

บริษัทมีการแบ่งออกสองแผนกอย่างชัดเจน คือ 1.แผนก…สมมุติว่า เออีรับบรีฟงานจากลูกค้าต้องการอะไร เสร็จแล้วเออีก็มาบอกมีเดียร์ว่าลูกค้าต้องการ 1 2 3 เช่น อยากโฆษณาสินค้าตัวหนึ่ง อยากให้นักข่าวสายนี้ สายนี้มาร่วมงาน เราจะทำอย่างไร มีเดียร์ก็จะแนะนำ วิธีการว่า ถ้าเป็นประมาณนี้ press release ก็พอ หรือถ้าประมาณนี้จัดอีเว้นท์ด้วยดีนะ และก็เชิญนักข่าวสายนี้ ๆ ก็ต้องมีการวางแผนร่วมกันและไปเสนอแผนกับลูกค้า

“กบ” ได้บอกเพิ่มเติมว่า ในโลกแห่งยุคดิจิทัล การทำงานนั้นไม่ได้ง่าย แต่ด้วยประสบการณ์ที่เคยเป็นนักข่าว และทำพีอาร์มาก่อนที่ธนาคารเอเชีย และเมืองไทยประกันภัย ก่อนที่จะมาก่อตั้งบริษัทของตัวเอง ก็จะได้หลักในการทำงานคือ 1.ความอดทน 2.ได้ไหวพริบปฏิภาณ ที่เราต้องรอบรู้ทุกอย่างเพื่อให้ทันกับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น 3.ต้องขยัน

ส่วนการบริหารงานหรือร่วมทำงานกับเด็กรุ่นใหม่ ๆ “กบ” บอกว่า เราต้องไว้ใจเค้า เหมือนเป็นบริษัทพี่น้อง จุดสำคัญคือเรื่องเวลาในการทำงาน บริษัทไม่มีการแสกนเข้า – ออก คือเราไว้ใจกัน ว่างานต้องเสร็จตามเวลานี้ และก็คุณทำงานที่ไหนก็ได้ คุณจะไม่เข้าออฟฟิศก็ได้แต่ว่างานจะต้องเสร็จทันตามกำหนด จะไม่ค่อยสติ๊กกับเด็กรุ่นใหม่ เขาก็จะแฮปปี้ รวมถึงสวัสดิการที่มีให้ เช่นประกันสุขภาพกลุ่ม หรือการพาพนักงานไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น

แหมๆๆ เจ้านายดีเยี่ยงนี้ อิป้า อิจฯ มากค่ะ คุณขา อยากจะไปขอสมัครทำงานด้วยเลย ติดที่ว่ากลัวเด็ก ๆ มันจะเรียกยาย นั่นนซิคะ อิอิ วันนี้ไปล่ะค่ะ บ๊ายย